ขอเรียนปรึกษาเรื่องการวางแผนการเงิน
ขณะนี้ อายุ 36 ปี อาชีพพนักงานมหาวิทยาลัย อัตราเงินเดือน 26,240
หักค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ประกันสังคม ภาษี ขพค. เหลือรับต่อเดือนประมาณ 20,000 บาท

พอร์ตการออมเป็นดังนี้ค่ะ

  1. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เก็บจากเรา 2% ต้นสังกัดออกให้ 2%
    (อัตราผลตอบแทนน่าจะประมาณ 2%) เริ่มลงทุน ปี 2554
  2. ฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ เดือนละ 1,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 3.9% ต่อปี (เริ่ม พ.ค. 57 ครบ พ.ค. 59)
  3. กองทุนเปิดตราสารหนี้ระยะสั้น KFSPLUS 120,000 บาท (เป็นเงินสำรองฉุกเฉิน) เริ่มซี้อ 2 ก.ย. 57
  4. กองทุนเปิดตราสารหนี้ระยะกลาง KFMTFI 60,000 บาท เริ่มซี้อ 2 ก.ย. 57
    (เป็นเงินเผื่อโอกาสในการนำไปลงทุนอย่างอื่นในอนาคต และเพื่อท่องเที่ยว)
  5. กองทุนเปิด บัวหลวงทศพล ลงทุนแบบ DCA โดยตัดจากบัญชี 3,000 บาท ทุกๆ วันที่ 1 ของเดือน
    ตั้งใจลงทุนเป็นเวลา 30 ปี ( คาดหวังที่อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 12% ต่อปี ) เริ่มลงทุน 3 มิ.ย. 57

คำถาม

1. หากวันใดมีรายได้พิเศษเข้ามา จำนวนไม่มาก เช่น รายได้จากการรับจ๊อบอื่น ประมาณ 10,000 บาท
(ไม่ได้ประจำทุกเดือน แค่เป็นบางคราว) ตั้งใจว่า อาจแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ

ส่วนที่ 1
5,000 บาทเอาไปเก็บเพิ่มใน ตราสารหนี้ระยะสั้น KFSPLUS
เผื่อโอกาสในการนำไปลงทุนอย่างอื่นในอนาคต และเพื่อท่องเที่ยว

ส่วนที่ 2
5,000 บาทจะเอาไปลงทุนเพิ่มใน กองทุนเปิดบัวหลวงทศพล
(เพราะตอนนี้ลงทุนเดือนละ 3000 บาท คิดว่าอาจไปไม่ถึงเป้าหมาย 10 ล้าน ในเวลา 30 ปี
จึงอยากเอาเงินที่ได้พิเศษมาเพิ่มลงไปค่ะ)

แนวคิดนี้ใช้ได้หรือไม่คะ ? หรือมีวิธีอื่นที่ดีกว่า
และถ้าจะเอา 5,000 ไปเพิ่มใน กองทุนเปิดบัวหลวงทศพล ซึ่งเราลงทุนแบบ DCA เดือนละเท่าๆ กันอยู่แล้วนั้น
เราจะทราบได้อย่างไรว่าควรจะเข้าซื้อในช่วงไหนดีคะ มีสิ่งใดที่ต้องพิจารณาบ้าง ? หรือสามารถเข้าซื้อได้เลย ?

2. จากคลิป “แนวคิดคนธรรมดามีความมั่นคงได้” และ “ แนวคิดเกษียณเร็วด้วยการลงทุน
หากอยากเกษียณเร็ว/รวย แต่เป็นพนักงานมหาวิทยาลัยซึ่งเงินเดือนน้อยและไม่มีโบนัสรายปี
มีแต่เงินปันผลสหกรณ์แต่ละปีไม่กี่พันบาท

ถ้าเป้าหมายอยากมีประมาณ 10 ล้านบาท เมื่ออายุ 55-60 ปี (หรือเร็วกว่านั้น)
แต่ตอนนี้อายุ 36 ปีแล้ว จากพอร์ตการลงทุนของตัวเอง ณ ปัจจุบันจะเป็นไปได้หรือไม่คะ ?
หรือต้องปรับพอร์ตอย่างไรให้ถึงเป้าหมาย รบกวนขอคำชี้แนะแนวทางด้วยนะคะว่าควรทำอย่างไร


คำตอบ

ก่อนอื่น ต้องขอบคุณที่ให้ข้อมูลมามากพอสมควรนะครับ
เห็นกระบวนการจัดสรรเงินเบื้องต้นแล้ว ต้องถือว่ามีความรัดกุมดี และน่าชื่นชมมากครับ
มีทั้งการออมประจำรายเดือน มีทั้งการจัดสรรเงินสำรองทั้งที่เผื่อฉุกเฉิน และ เผื่อท่องเที่ยว
ซึ่งเท่าที่ผมอ่าน ดูจะให้ความสำคัญกับเป้าหมาย 10 ล้านบาท มากเป็นพิเศษ
ดังนั้น ผมจะขอวิเคราะห์และช่วยวางแผนในประเด็นนี้เป็นหลัก
โดยขอไม่ไปแตะเงินส่วนอื่น  นอกจากเงินที่จะลงทุนในหุ้นผ่านกองทุนเปิดบัวหลวงทศพล (BTP)


ผมขอเริ่มจากการประเมินมูลค่าเงินในอนาคต จากการลงทุนใน BTP เดือนละ 3,000 บาท
โดย คาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ย 12% ต่อปี จะพบว่า…

หากลงทุนไปอีก 19 ปี (จนถึงอายุ 55) เงินจะมีโอกาสโตเป็น 2.43 ล้านบาท
หากลงทุนไปอีก 24 ปี (จนถึงอายุ 60) เงินจะมีโอกาสโตเป็น 4.53 ล้านบาท
หากลงทุนไปอีก 30 ปี (จนถึงอายุ 66) เงินจะมีโอกาสโตเป็น 9.24 ล้านบาท

ในกรณีของ BTP นั้น เนื่องจากเป็น Active Fund ที่มีฝีมือค่อนข้างดี
ผมขอลองประเมินกรณีกอง ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยสัก 14% ต่อปี ให้ดูด้วย
จะได้ผลลัพธ์ดังนี้ครับ

หากลงทุนไปอีก 19 ปี (จนถึงอายุ 55) เงินจะมีโอกาสโตเป็น 3.05 ล้านบาท
หากลงทุนไปอีก 24 ปี (จนถึงอายุ 60) เงินจะมีโอกาสโตเป็น 6.14 ล้านบาท
หากลงทุนไปอีก 30 ปี (จนถึงอายุ 66) เงินจะมีโอกาสโตเป็น 13.80 ล้านบาท

หมายเหตุ ประเมินโดยใช้ความรู้ และไฟล์ Excel ในบทเรียนนี้ครับ
http://www.a-academy.net/finance/personal-finance/05-planning-regular/ 


จากการประเมินข้างต้น
จะเห็นว่าในแผนปกติ (กรณีไม่เร่ง) คือสามารถลงทุนไปได้อีก 30 ปี (จนถึงอายุ 66)
ก็มีโอกาสที่เงินจะเติบโตไปแถวๆ 10 ล้านบาทได้ โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม
ซึ่งนี่ยังไม่รวมมูลค่าเงิน “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” เข้ามาด้วย

แต่ถ้าเร่ง คือต้องการ 10 ล้านบาทภายในอายุ 55-60 จะเห็นว่าเงินก็ยังขาดอีกเยอะ
โดยในส่วนของผลตอบแทนนั้น เราคงไม่สามารถไปเร่งให้มันเกิน 12-14% ไปได้แล้ว
จึงควรต้องวางแผนเพิ่มเงินที่จะลงทุนทั้งรายเดือน และเงินที่จะลงทุนพิเศษแทน


ในส่วนของเงินลงทุนเพิ่มรายเดือนนั้น หากสมมติให้ลงทุนเพิ่มขึ้นได้ปีละ 5%
คือปีนี้ ลงทุน 3,000/เดือน -> ปีหน้าลงทุน 3,150/เดือน -> ปีถัดไปลงทุน 3,310 บาท/เดือน
และปีต่อๆ ไปก็ลงทุนเพิ่มในอัตรานี้ไปเรื่อยๆ ก็จะประมาณผลลัพธ์ได้ดังนี้ครับ

กรณีคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ย 12% ต่อปี 

หากลงทุนไปอีก 19 ปี (จนถึงอายุ 55) เงินจะมีโอกาสโตเป็น 3.54 ล้านบาท
หากลงทุนไปอีก 24 ปี (จนถึงอายุ 60) เงินจะมีโอกาสโตเป็น 7.10 ล้านบาท
หากลงทุนไปอีก 30 ปี (จนถึงอายุ 66) เงินจะมีโอกาสโตเป็น 15.66 ล้านบาท

กรณีคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ย 14% ต่อปี 

หากลงทุนไปอีก 19 ปี (จนถึงอายุ 55) เงินจะมีโอกาสโตเป็น 4.47 ล้านบาท
หากลงทุนไปอีก 24 ปี (จนถึงอายุ 60) เงินจะมีโอกาสโตเป็น 9.67 ล้านบาท
หากลงทุนไปอีก 30 ปี (จนถึงอายุ 66) เงินจะมีโอกาสโตเป็น 23.49 ล้านบาท

จะเห็นว่าโอกาสมันก็เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ผมคงไม่สามารถคำนวณให้ดูได้ในทุกๆ ทางเลือก
แต่อยากให้ลองใช้ไฟล์ Excel ในบทเรียนเรื่องนี้ ไปวางแผนเองต่อไปครับ
http://www.a-academy.net/finance/personal-finance/06-planning-uneven/

Excel นี้จะช่วยให้ สามารถลองวางแผนเงินออม ให้ค่อยๆ ออมเพิ่มขึ้นทุกปี
และกรณีมีเงินออมเพิ่มพิเศษ ก็สามารถใส่ข้อมูลเข้าไปใน Excel ช่อง “ลงทุนเพิ่ม” ได้ด้วย
วางแผนเองแบบนี้ จะเห็นอะไรมากกว่าให้ผมลองทำให้เยอะเลยครับ


โดยสรุปแล้วถ้าต้องการให้เป้า 10 ล้านบาท บรรลุได้เร็วขึ้น คือบรรลุได้ในช่วงอายุ 55-60 ปี
ผมขอแนะนำให้ลองวางแผน กรณีต่างๆ ดังนี้ครับ

  • ลองพิจารณาเงินออมรายเดือน ว่าสามารถเพิ่มขึ้นมากกว่า 3,000 บาทหรือไม่ ?
  • ลองพิจารณาว่าถ้าเงินเดือนเพิ่มขึ้น เราจะสามารถลงทุนส่วนนี้เพิ่มขึ้นได้แค่ไหน ?
  • เงินพิเศษที่จะได้เป็นช่วงๆ อาจเน้นลงทุนเพิ่มในส่วนนี้มากกว่าส่วนอื่นได้หรือไม่ ?
  • เงินออมที่ลงทุนอยู่ในช่องทางอื่น เช่น สหกรณ์ ซึ่งมีผลตอบแทนต่ำกว่า
    สามารถผันมาลงทุนในช่องทางนี้ได้หรือไม่ ?

นอกจากนั้นในส่วนของ Provident Fund ซึ่งได้ผลตอบแทนค่อนข้างต่ำคือประมาณ 2%
เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะเปลี่ยนแผนการลงทุนไปเป็นแผนการลงทุนอื่น ที่ให้ผลตอบแทนได้มากกว่านี้
หรือ กรณีนายจ้าง ไม่มีแผนให้เลือก จะมีช่องทางที่จะขอร้อง/เรียกร้อง
ให้นายจ้างเปลี่ยนไปใช้กองทุนที่มีแผนการลงทุนให้เลือก (Employee’s Choice) ได้หรือไม่

เพราะถ้าทำได้ เงินส่วนนี้ก็จะโตเป็นเงินไม่ใช่น้อย สามารถนำไปคิดรวมกับส่วนของ BTP ได้ครับ


ส่วนที่ถามว่า เมื่อมีเงินพิเศษจะลงทุนเพิ่มใน BTP ควรจะลงทุนอย่างไร ซื้อช่วงไหน ต้องดูอะไรบ้าง ?
ผมคิดว่าสามารถลงทุนไปตามจังหวะที่มีเงินพิเศษเข้ามาเลยก็ได้ครับ

เพราะแผนการลงทุนนี้เป็นการลงทุนระยะยาวมากอยู่แล้ว แถมเงินทุกๆ ก้อน เราก็ลงทุนแบบ DCA อยู่ด้วย
การไปพยายามจับจังหวะลงทุนกับเงินเพียงบางก้อน ต่อให้ทำได้ถูก… ก็คงไม่ให้ผลแตกต่างอะไรมากนักในระยะยาว
ผมเชื่อว่าเราทำให้ง่าย รักษาวินัยการลงทุนไป จะดีกว่า และสร้างความลำบากใจให้เราน้อยกว่าด้วย

6 COMMENTS

  1. ขอบคุณมากนะครับทั้งคนถามทั้งคุณเอ ชอบตอนนี้มาก ๆ ครับ

  2. ขอบพระคุณ คุณ เอ มากๆค่ะ ที่กรุณาตั้งใจตอบคำถามแต่ละคำถามได้อย่างละเอียด และชัดเจน ช่วยชี้แนะแนวทางให้วางแผนชีวิตไปอย่างถูกทาง เป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่เลยล่ะค่ะ ขอคุณพระคุ้มครอง และเป็นกำลังใจให้เพจดีๆอย่างนี้ตลอดไปนะคะ _/|\_ : )

  3. ชอบคำถามและคำตอบนี้มากค่ะ เริ่มมองเห็นอนาคตตัวเองรำไรๆ

  4. ขอชื่นชมคุณเอมาก ๆ เลยครับ ได้ติดตามผลงานก่อนจะปรับปรุงเวบแล้วครับ เป็นต้นแบบของสังคมเลยครับ ผมได้นำความรู้ที่คุณเอมอบให้ไปใช้ประโยชน์ได้มากเลยครับ และคิดว่าท่านอื่น ๆ ที่ได้ติดตามก็ได้ความรู้มาก ๆ เช่นกัน
    ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่งครับ

  5. เป็นคำถามที่ยกข้อมูลมาได้ละเอียดมากครับ และ คำตอบก็ให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนได้เป็นอย่างดี ผมเองก็กำลังวางแผนลงทุนและการใช้เงินในอนาคต จะนำแนวคิดนี้ไปปรับใช้ ขอบคุณครับ

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here