ทำไม NAV กองทุนที่ลงทุนเหมือนกัน จึงเปลี่ยนแปลงไม่เท่ากัน ?

ขอทราบความแตกต่างระหว่างกองทุนเปิดกับกองทุน RMF 
ที่ลงทุนในหุ้นที่มีลักษณะที่ถือครองหุ้นเหมือนกัน
เช่น TMB SET50 และ TMB SET50 RMF
ทำไมการเปลี่ยนแปลงของ NAV ในแต่ละวันถึงไม่เท่ากันครับ ?

หมายเหตุ
อ้างอิงจาก http://www.tmbam.com/v6/th/mutual-fund-nav.php?accept=1

คำตอบ

ไหนๆ จะอธิบายเปรียบเทียบแล้ว ผมขอเอา TMB SET50 Dividend มาเปรียบเทียบด้วยอีกกองทุนหนึ่งนะครับ
โดยทั้ง 3 กองทุนที่ยกตัวอย่างมานั้น มีนโยบายการลงทุนที่เหมือนกันทุกประการ นั่นคือ

จะพยายามลงทุนในหุ้นเต็มอัตรา (Fully Invested) เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทน
ที่ใกล้เคียงกับดัชนี SET50 ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

หากเราเก็บขอมูลราคา NAV ของกองทุนทั้ง 3 กองนี้ ระหว่างวันที่ 27 และ 28 พ.ย. 57 มาเปรียบเทียบ
จะได้ข้อมูลดังรูปประกอบที่โพสมาด้วยนี้นะครับ

จากรูปจะเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงของราคา NAV ของทั้ง 3 กองนี้แตกต่างกันใน 2 ประเด็น ดังนี้

ประเด็นที่ 1 : มีการเปลี่ยนแปลงเป็น “บาท” ต่างกัน

TMB SET50 ซึ่งเป็นกองเปิด บวกขึ้น 0.5124 บาท/หน่วย
ขณะที่ TMB SET50 Dividend บวกแค่ 0.0465 บาท/หน่วย
และ TMB SET50 RMF บวกไป 0.2231 บาท/หน่วย

สาเหตุสำคัญเกิดจากการที่ทั้ง 3 กองทุนมี “NAV ฐาน” ที่แตกต่างกัน

โดย TMB SET50 นั้น มี NAV อยู่แถวๆ 90 บาท
ขณะที่ TMB SET50 Dividend นั้น NAV แค่ 8 บาท
และ TMB SET50 RMF มี NAV ประมาณ 39 บาท

ดังนั้นในวันที่ 28 พ.ย. 57 ซึ่งดัชนี SET50 บวกขึ้นมาประมาณ +0.5%
เมื่อแปลงอัตรา +0.5% นั้นเป็นราคา NAV ซึ่งมีหน่วยเป็น “บาท”
จึงทำให้ NAV ของทั้ง 3 กองบวกเพิ่มแตกต่างกัน

แต่ถ้าหันไปมองตารางคอลัมน์การเปลี่ยนแปลงแบบที่เป็นหน่วย %
จะพบว่า ทั้ง 3 กองทุนนั้น บวกขึ้นประมาณ 0.56-0.57% เท่าๆ กัน
นั่นคือ ถ้าเราถือกองทั้ง 3 กองด้วยเงินเท่ากันในวันก่อนหน้า วันที่ 28 นี้ ก็จะได้กำไรเป็นตัวเงินเท่าๆ กัน

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ NAV ฐานของกองทุนที่ลงทุนเหมือนกันมีค่าไม่เท่ากัน
ก็เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อายุกองทุนที่ต่างกัน
บางกองตั้งมานานมากแล้วเก็บกำไรสะสมไว้เยอะ NAV จึงสูง ขณะที่บางกองเพิ่งตั้งทีหลัง NAV จึงต่ำกว่า
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือเรื่อง นโยบายการจ่ายเงินปันผล 
บางกองจ่ายเงินปันผลตลอด ทุกครั้งที่จ่ายออก NAV ก็จะลดลงพอๆ กับเงินปันผลที่จ่าย
ทำให้ราคา NAV ไม่ยอมไปไหนเสียที NAV ก็จะต่ำๆ

ความรู้ความเข้าใจเรื่อง NAV นี้ อยากขอให้ศึกษาเพิ่มเติม ใน Q&A ตามลิ้งค์นี้นะครับ
http://www.a-academy.net/blog/nav/

ประเด็นที่ 2 : มีการเปลี่ยนแปลงเป็น “%” ต่างกัน

จากข้อมูลในรูป จะพบว่าทั้ง 3 กองทุนแม้จะเปลี่ยนแปลงเป็น % ที่ใกล้กัน แต่ก็ต่างกันอยู่บ้าง
ก็อาจเป็นได้จากหลายๆ สาเหตุ ได้แก่

1) การถือครองหุ้นไม่เหมือนกัน 100%

ซึ่งแม้ทั้ง 3 กองทุนจะตั้งใจลงทุนเหมือนๆ กัน แต่จะให้ถือหุ้นเหมือนกันเป๊ะ “ทุกกระเบียดนิ้ว” ก็ยังเป็นไปได้ยากครับ
โดยเฉพาะเมื่อในแต่ละวันก็มีเงินที่ซื้อกองเพิ่ม และขายกองออกแตกต่างกันไป ความแตกต่างเล็กๆ จึงเกิดขึ้นได้เสมอ

2) การถือครองเงินสดแตกต่างกัน

กองไหนถือเงินสดไว้เยอะๆ ก็จะมี “Cash Drag” ได้มากกว่า
คือ เมื่อหุ้นขึ้นก็จะขึ้นได้น้อยกว่ากองที่ถือเงินสดน้อย (ในทางกลับกัน เมื่อหุ้นลงก็จะลงน้อยกว่าด้วย)

ซึ่งผู้จัดการกองทุนของกองนั้นๆ จะเป็นผู้ประเมิน ว่าควรถือเงินสดเท่าใด จึงจะเหมาะสมกับแต่ละกอง
เพราะนักลงทุนที่อยู่ในแต่ละกองอาจมีพฤติกรรมต่างกัน
บางกองมียอดคนมาขายกองออกบ่อยๆ เยอะๆ ก็อาจต้องสำรองเงินสดไว้มากหน่อย (เมื่อคิดเป็น % ของเงินทั้งพอร์ต)
บางกองไม่ค่อยมียอดขายออกเลย ก็อาจสำรองไว้น้อยเป็นต้น

3) อัตราค่าใช้จ่ายรวม (Total Expense Ratio : TER) ต่างกัน

TER นี้จะเป็นอัตราค่าใช้จ่ายที่จะต้องมีการหักออกจากผลตอบแทนที่ทำได้ในแต่ละวัน
ก่อนที่จะประกาศออกมาเป็นราคา NAV วันนั้น

ดังนั้น ถ้าทุกกองทำผลตอบแทนได้เท่ากัน แต่มี TER ต่างกัน
กองไหนที่มี TER สูงกว่า ผลตอบแทนในรูปของ % Change ก็จะต่ำกว่าได้ครับ

เรื่อง TER นี้มีนัยยะสำคัญอย่างมาก เพราะส่วนต่าง TER เล็กๆ น้อยๆ
อาจจะกระทบการเติบโตของเงินลงทุนได้เป็นแสนๆ บาท ในระยะยาวๆ เช่น 20-30 ปีครับ
อยากให้ศึกษาเพิ่มในบทเรียนต่อไปนี้นะครับ
http://www.a-academy.net/blog/ter-vs-return/
http://www.a-academy.net/finance/personal-finance/04-fund-expense/

และทั้งหมดที่กล่าวมา ก็เป็นเหตุผลหลักๆ
ที่ทำให้ % การเปลี่ยนแปลงของ NAV กองทุนที่ลงทุนเหมือนกัน แตกต่างกันได้ครับ

หมายเหตุ
หลักการวิเคราะห์เช่นนี้ สามารถนำไปใช้กับกองทุนของ บลจ. อื่นๆ ได้เช่นกันนะครับ
แต่ที่เลือกกอง SET50 ของ TMB มาเปรียบเทียบ เนื่องจากทั้ง 3 กองทุนนี้
ผมมั่นใจว่ามีนโยบายการลงทุนที่เหมือนกันแน่นอน จึงนำมายกตัวอย่าง ให้เห็นภาพที่ชัดเจนที่สุดครับ