โพสนี้… ยังคงตั้งใจจะ Remind ให้เห็นความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นกันต่อจาก โพสที่แล้ว นะครับ
ลองมาดูกันสิว่ากองทุนระดับ “เทพ” ซึ่งหลายๆ ท่านลงทุนกันอยู่
เคยประพฤติตัวอย่างไรในช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2008
สถิติผลตอบแทนช่วงนั้น จะหาดูไม่ค่อยได้แล้ว
เพราะ Fact Sheet มาตรฐาน ก็รายงานสูงสุดแค่ 5 ปี
ซึ่งถ้าเราไปดูตอนนี้ ก็จะเห็นแต่ตัวเลขที่เป็น “บวก” เยอะๆ
ดีที่ในเว็บไซต์ของ Morningstar ยังมีข้อมูลย้อนหลังให้ดูฟรีถึงปี 2007
ผมจึงขอสรุปมาให้ดูตามรูปประกอบ…
จะเห็นนะครับว่า กองดังๆ ที่คนนิยมลงทุนกันอยู่ ทั้งกองหุ้นแบบ Active, Passive, LTF และ RMF
ก็ขาดทุนกันถ้วนหน้า มากบ้างน้อยบ้าง แต่ก็เฉลี่ยๆ อยู่แถวๆ 35-45%
นั่นคือใครลงทุนไว้ต้นปี 2008 1 ล้านบาท ณ สิ้นปี เงินจะหายไป ร่วม 3.5 – 4.5 แสนบาท
ซึ่งก็พอเข้าใจได้ครับ เพราะปีนั้นมีวิกฤติใหญ่จริงๆ
แต่มองเผินๆ ก็อาจจะบอกว่าไม่เห็นเป็นไร เพราะปี 2009 พอตลาดหุ้นดีดตัวขึ้น
กองทุนเหล่านี้ก็สร้างผลตอบแทนกลับคืนมาได้มาก บางกองเหลือขาดทุนนิดหน่อย บางกองก็เกินที่ขาดทุนไป
แต่ในความเป็นจริงก็คือ…
นักลงทุนจำนวนมากอยู่ในตลาดหรืออยู่ในกองตอนที่ “หุ้นลง” แต่ไม่ได้กลับมาตอนที่ “หุ้นขึ้น”
ส่วนหนึ่งกลัวจนทนไม่ไหว ขายทิ้งไปก่อนช่วงที่หุ้นตกหนักๆ
กว่าจะกล้ากลับเข้ามาอีกที ก็หลังจากนั้นอีกนานมาก
ส่วนหนึ่งที่เชื่อในฝีมือตัวเอง ก็พากัน “SAP” หรือ “Short Against Port”
คือขายไปก่อน เพื่อจะไปช้อนซื้อในราคาที่ถูกกว่า
ซึ่งหลายท่านก็ได้เกิดอาการ “แซ้บ” จริงๆ คือคิดว่าราคาถูกแล้ว ก็เลยซื้อกลับ แต่มันก็ลงต่ออีก
บางท่านทำไปหลายรอบ… มันก็ยังลงต่อได้อีก ทำไปจนเข็ด
ประเด็นของผมนั้นคงไม่ใช่จะบอกว่าให้ทำยังไง
แต่แค่จะบอกว่า “ให้เตรียมใจและเตรียมวิธีการรับมือ” เอาไว้
มันอาจจะเกิด หรือไม่เกิดก็ได้ ถ้าเกิดก็อาจจะไม่หนักขนาดนี้ก็ได้
ถ้าเชื่อในฝีมือ เชื่อในเครื่องมือ
ก็ฝึกปรือให้เก่ง เตรียมการให้พร้อม
ถ้าไม่สันทัดการใช้เครื่องมือต่างๆ
ก็ควรทำความเข้าใจเรื่องหุ้นให้ดี ว่ามันมีธรรมชาติอย่างไร
เงินสั้นและร้อนก็ไม่ควรนำมาลงทุนหุ้นตั้งแต่แรก
ส่วนเงินยาวแต่ความอดทนต่ำ ก็ไม่ควรทุ่มลงหุ้นทั้งหมด
จะศึกษาเพิ่มเติมที่ไหน ผมขอโพสลิ้งค์ชุดเดิมดังนี้ครับ
Series : สินทรัพย์เพื่อการลงทุน
http://www.a-academy.net/personal-finance/s07-investment-assets/
เรื่องหุ้น ขอให้ดูตอนที่ 5-9
บทความ
1. ลงทุนหุ้นยาวแค่ไหน… ถึงจะพออุ่นใจได้ว่าไม่ขาดทุน
http://www.a-academy.net/blog/stock-risk-vs-time-horizon/
2. ลงทุนได้สำเร็จ… แบบทำน้อยได้เยอะ (Win the Loser’s Game)
http://www.a-academy.net/blog/win-loser-game/
3. วิกฤติใหญ่ตลาดหุ้นไทย #1 (2522-2525)
http://www.a-academy.net/blog/set-crisis-1/
4. วิกฤติใหญ่ตลาดหุ้นไทย #2 (2536-2541)
http://www.a-academy.net/blog/set-crisis-2/
5. จะเตรียมตัวอย่างไรดี… ถ้ากังวลว่าหุ้นจะตกหนักๆ
http://www.a-academy.net/blog/what-to-do-if-crisis-ahead/