เนื่องด้วยปัจจุบัน ผมอายุ 27 ปีครับ จบมาทางด้านสายทางการเเพทย์
ไม่มีความรู้ทางด้านเศรษฐศาสตร์เเละการเงินเท่าไหร่
ผมสนใจการลงทุนในกองทุนรวม จึงได้ติดตามไฟล์การสอนของพี่เอตั้งเเต่ต้นจนจบมาถึงปัจจุบัน
และมีอ่านหนังสือประกอบบ้าง
ผมเงินเดือน 20,000 บาท อยากให้กองทุนรวมทำงานเเทนเราบ้าง
เรียนปรึกษาการลงทุนดังนี้ครับ
- ABSM 5,000 บาท/เดือน
- TMB SET50 1,000 บาท/เดือน
- CG-LTF 2,000 บาท/เดือน
(ผมยังไม่ต้องเสียภาษีจำเป็นหรือไม่ครับ เเล้ว LTF จำเป็นต้องลงทุนทุกเดือนหรือไม่ครับ) - ABSC-RMF 2,000 บาท/เดือน
(เช่นเดียวกันครับ กว่าจะขายได้ อายุ 55 โน่น ตัวนี้จำเป็นหรือไม่ครับ)
ปล. ผมอยากจะออมเงินให้ได้ 50% ต่อเดือนครับ จึงเรียนปรึกษาว่า LTF/RMF จำเป็นไหมครับ
หรือควรลงเพิ่มใน 1 เเละ 2 ดีครับ หรือควรออมในส่วนของ กบข.ดีกว่า ?
คำตอบ
ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมมากครับ ที่ตั้งใจจะออมเงินถึง 50%
ผมเองตอนที่เริ่มเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ก็ออมแบบนี้เหมือนกัน เวลาผ่านไปจนถึงวันนี้ ผลลัพธ์มันคุ้มค่าจริงๆ ครับ
(อ้อ ตอนนั้น ผมก็ไม่ได้เรียนการเงิน และบัญชีใดๆ ทั้งสิ้นครับ)
กลับมาตอบคำถามนะครับ
ผมขอไม่ให้ความเห็นเรื่องกองที่เลือกมา เพราะต้องบอกว่า มองรวมๆ กองเหล่านี้ผู้ถามได้คัดมาแล้วทั้งนั้น
แต่ขอตอบในประเด็นต่อไปนี้ดีกว่า
1. ทุกกองที่เลือกมาเป็นกองหุ้นทั้งหมด
อันนี้เพราะตั้งใจแล้วใช่มั๊ยครับ ว่าจะรับความเสี่ยงเต็มที่แบบนี้
ถ้าตั้งใจก็ลงทุนได้ครับ พอร์ตส่วนตัวผมก็ลงหุ้น 100% เหมือนกัน
ผมแค่เช็คเท่านั้นว่าเราทำแบบนี้ เพราะ “ตั้งใจ” จริงๆ
แต่ถ้าไม่ได้ตั้งใจ เรายังมีตัวเลือกอื่นๆ ที่เสี่ยงน้อยลงมา เช่นกองทุนผสม และ/หรือ ตราสารหนี้ต่างประเทศ
ก็อาจจะแบ่งๆ ไปกองประเภทนั้นด้วยก็ได้นะครับ
2. LTF และ RMF นั้นหากยังไม่มีภาระภาษี ก็ยังไม่ควรลงทุนครับ
เพราะ LTF/RMF นั้น จริงๆ ก็คือกองทุนรวมธรรมดาๆ ที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติม
(แลกมาด้วยเงื่อนไขการถือครอง)
เราลงทุนในกองทุนรวมธรรมดาไปก่อนดีกว่า ไม่ติดเงื่อนไขการถือครองด้วย ทางเลือกก็มีมากกว่า
ต่อเมื่อเรามีภาระภาษีที่ต้องการจะลดหย่อนนั่นแหละครับ ที่เราจะย้ายเงินเข้าไปเป็น LTF/RMF
3. LTF และ RMF ไม่จำเป็นต้องลงทุนทุกเดือนครับ
ไม่ว่าจะลงเป็นรายเดือน ลงเป็นแบบสุ่มๆ จังหวะไม่แน่นอน หรือลงตูมเดียวตอนสิ้นปี
ก็ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้เหมือนกัน โดยยอดที่ใช้นำไปใช้ลดหย่อน จะเป็น “ยอดรวม” ที่เราซื้อตลอดทั้งปีนั้น
4. ออมเพิ่มในส่วนของ กบข. ดีมั๊ย ? อยู่ที่เราอยากลงหุ้น 100% รึเปล่าครับ
เพราะถ้าลงผ่าน กบข. แผนการลงทุนที่เสี่ยงที่สุดที่เลือกได้ คือแผน “สมดุลตามอายุ”
ซึ่งสำหรับคนที่อายุไม่เกิน 45 เค้าจะลงหุ้นให้ประมาณ 65%
ถ้ารับได้ ที่พอร์ตจะมีหุ้นประมาณ 65% ก็เลือกได้ครับ
เพราะสิ่งที่เด่นที่สุดของ กบข. คือ “วินัยในการลงทุน” เพราะเงินจะถูกตัดจากเงินเดือนเราไปลงทุนทันที