ผมลงทุนผ่านกองทุนรวมมาสักพักนึงแล้วนะครับ
ผมอายุ 43 ปี มีทั้ง LTF RMF, แล้วยังมีกองหุ้นปันผล ตราสารหนี้ 
ผมสงสัยเรื่องการ Rebalance Port ครับ 

LTF ผม DCA ทุกเดือนแน่นอนว่ามันเป็นกองหุ้นอย่างเดียว ซื้อประมาณ 80% ของสิทธิ์ 

ส่วน RMF มีทั้งกอง SET100 กับกองตราสารหนี้ ผมจะใช้ก้อนเดียวหรือ ถ้าเงินเหลือจะเข้าซื้อ
โดยซื้อที่ตราสารหนี้ก่อนและจับจังหวะสับกองเข้าไปกองหุ้น ถ้าได้กำไรตามเป้าก็จะสับกลับมาอีก

คราวนี้ผมสงสัยว่าผมจะจัด Asset Allocation อย่างไร เพราะว่า LTF ที่ DCA มันโตขึ้นเรื่อยๆ
และก้อนท้ายๆ ที่เราพึ่งใส่ไปก็ยังไม่มีกำไร (หากตลาดขาลง หรือ Side way) ขายไม่ได้ ปรับลำบาก
เลยทำให้หากมองทั้ง Port ของผมมันเลยมองว่าผมถือกองหุ้นเยอะไป
หรือผมลงสะเปะสะปะไป ไม่มีวินัย ช่วยแนะนำหน่อยครับ


คำตอบ

การจะ Rebalance พอร์ตนั้น ก่อนอื่นจะต้องมี Target Weight ของสินทรัพย์ต่างๆ ก่อนครับ
ว่าเรา “ตั้งใจ” ที่จะดำรงสัดส่วนสินทรัพย์ไว้ที่เท่าไหร่
และควรพิจารณาทั้งพอร์ต คือนับทั้ง LTF, RMF, กองทุนเปิดทั่วไป, และ การลงทุนทางตรงอื่นๆ รวมกันหมด

เช่นถ้าตั้งใจมีหุ้น 70% ตราสารหนี้ 30% แล้วตอนนี้พอร์ตจริงเป็น หุ้น 80% ตราสารหนี้ 20%
การ Rebalance ก็จะเป็นการสับเปลี่ยนหรือขายกองทุนหุ้น / หุ้น ออกไป 10% ของพอร์ต
เพื่อนำไปเพิ่มการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้แทน

โดยอาจเลือกขายกองทุน หรือส่วนเงินที่เราคิดว่าอนาคตน่าจะเติบโตได้ไม่ดีเท่ากองอื่นๆ แล้ว
ให้มองไปข้างหน้าครับ อย่ามองไปข้างหลัง อย่ามัวไปดูว่ามันมีกำไร หรือไม่มีกำไร
บางทีกองที่ขึ้นมามากแล้ว ก็อาจจะขึ้นต่อได้ดีกว่า กองที่ยังขึ้นมาไม่มากก็ได้

แต่ในกรณีการปรับพอร์ต LTF นั้น จะติดข้อจำกัดว่าไม่สามารถจะลดหุ้นลงมาได้ (เพราะ LTF เน้นลงทุนในหุ้น)
ตรงนี้เราอาจต้องยอมรับข้อจำกัด แล้วพยายามแก้ด้วยวิธีอื่น
ซึ่งต้องวิเคราะห์จากสภาพพอร์ตจริงๆ และความต้องการ + ข้อจำกัดทางภาษี อย่างละเอียด

เช่น

  1. ขาย LTF ส่วนที่มีการครบกำหนดถือครองแล้วเปลี่ยนมาเป็นกองทุนเปิดธรรมดา
    เพื่อจะสามารถเปลี่ยนเป็นตราสารหนี้ได้เมื่อต้องการ (ในทางกลับกันก็เปลี่ยนกลับเป็นหุ้นได้เมื่อต้องการด้วย)
    [gap height=”3″]
  2. ลดการ DCA เงินใหม่ใน LTF ลงแล้วเปลี่ยนมาเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน RMF ตราสารหนี้แทน
    (ต้องเช็คเรื่องภาษี และข้อจำกัดที่ต้องถือครองถึงอายุ 55 ให้ดีครับ)
    [gap height=”3″]
  3. สับเปลี่ยน LTF ที่เป็นหุ้น 100% ไปยัง LTF ที่เป็นหุ้น 70% ก็สามารถลดหุ้นลงได้
    ทั้งนี้ต้องดู Target Weight ที่เราต้องการครับ ถ้า Target Weight ตั้งใจจะถือหุ้นน้อยมากๆ
    วิธีนี้ก็จะลดหุ้นลงได้ไม่ถึงจุดที่ตั้งใจ เพราะยังไงก็มีหุ้นต่ำสุดได้แค่ 70%
    [gap height=”3″]

ส่วนเรื่องมีหุ้นเยอะเกินไปมั๊ย ตรงนี้ ต้องอยู่ที่เราเลือกเองครับ

ลองโหลดสไลด์นี้มาดูนะครับ
http://www.a-academy.net/wp-content/uploads/2014/08/Mutual-Fund-Investment-18.pdf

หน้า 6 จะมีแสดงผลตอบแทนรายปี ของพอร์ตที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นแบบต่างๆ
ตั้งแต่ 15%, 30%, 60%, 100%

วิธีดูแบบง่ายๆ ให้ลองพิจารณาดูในปีที่ผลตอบแทนเป็นลบ เช่นปี 2008/2551 ดูครับ
ว่าเราอยากเลือกรับความเสี่ยงประมาณไหน เพราะคนอายุเท่ากัน
อาจมี Target Weight ไม่เท่ากันก็เป็นได้ ตรงนี้เลือกแทนกันได้ลำบากครับ


ไม่รู้ว่าตอบตรงคำถามมั๊ยนะครับ ถ้าไม่ตรง หรือมีคำถามเพิ่มเติมก็ถามเพิ่มได้ครับ 

[hr style=”2″ margin=”30px 0px 30px 0px”]

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here