มื่อวานนี้หุ้นตกแรง (8 ธ.ค. 57, SET ตก -1.39%)
ผมจึงเกิดข้อสงสัยว่า

“การจับจังหวะซื้อ กองทุนหุ้นนั้น มีประโยชน์ไหมครับ”

โดยผมได้โพสต์เรียนถามพี่ตู่ วรวรรณ ธาราภูมิ CEO บลจ.บัวหลวงว่า
ปกติแล้ว สำหรับกองทุนหุ้นผู้จัดการกองทุนจะนำเงินของลูกค้า
ไปลงทุนในวันเดียวกับที่ลูกค้าสั่งซื้อเลยไหมครับ หรือว่ายืดหยุ่นได้ตามที่ผู้จัดการกองทุนเห็นสมควร
(เรียนถามเพื่อเป็นข้อมูลช่วยตัดสินใจว่า คุ้มหรือไม่ที่จะจับจังหวะลงทุนน่ะครับ)

ซึ่งพี่ตู่ก็กรุณาตอบกลับมาว่า

“ไม่จำเป็นค่ะ จะลงทุนวันไหนก็แล้วแต่เห็นสมควร”

ถ้าเป็นอย่างนี้ก็แปลว่าเราสามารถซื้อกองทุนหุ้นวันไหนก็ได้ใช่ไหมครับ
(ถ้าอยู่ในช่วงเดือนเดียวกัน และดัชนีไม่ต่างกันมากนัก) โดยไม่ต้องรอจับจังหวะให้ดัชนีลดลงมาก่อน

แต่พอคิดทบทวนไปมา ผมก็ยังรู้สึกว่างงๆ อยู่
เพราะเห็นคนจำนวนมากรอซื้อกองทุนหุ้นในช่วงที่ตลาดร่วง

จึงอยากทราบว่าการที่หุ้นดิ่งลงไม่เกิน 100 จุดนั้น
จะมีผลต่อ NAV ของกองทุน และราคาต้นทุนที่เราซื้อได้หรือไม่ครับ

ตอนนี้อยู่ในสภาวะที่ “คิดไม่ตก” เลยครับ
จึงขอรบกวนคุณเอช่วยคลายข้อสงสัยด้วยครับ


คำตอบ

การจับจังหวะในการซื้อ-ขายนั้น
ถ้าทำได้ถูกจังหวะ ก็มีประโยชน์แน่ๆ ครับ
เพียงแต่ว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น โดยเฉพาะสำหรับคนทั่วไป

ซึ่งถ้าสังเกตบทเรียนใน A-Academy ที่เน้นให้ความรู้กับคนทั่วๆ ไป ไม่ใช่มือโปร
ก็จะมีพูดถึงการจับจังหวะลงทุนน้อยมาก

ส่วนใหญ่จะเน้นให้เลือกสินทรัพย์หรือประเภทกองทุน
ให้ Match กับระยะเวลาในการลงทุน 
แล้วลงทุนแบบ “ถือ” หรือ “สะสม” มากกว่าจะซื้อๆ ขายๆ

ส่วนเรื่องที่พี่ตู่ได้กรุณาอธิบายนั้น
แม้เงินใหม่ที่เข้ากองทุน อาจจะไม่ได้นำไปซื้อหุ้นทันที
แต่สาเหตุที่คนยังคงนิยมเข้าไปซื้อกองทุนหุ้น ช่วงที่หุ้นตกนั้น
ก็เพราะยังไงเสีย NAV ของกองทุนหุ้นก็จะปรับลดลงไปด้วย

นั่นเพราะหุ้นที่กองทุนถืออยู่ก่อนหน้า (โดยทั่วไปก็ถืออยู่มากกว่า 90% ของทั้งพอร์ต)
จะมีการปรับลดลงมาด้วย หากดัชนีหุ้นตก

เมื่อหุ้นเหล่านั้นปรับลง NAV ของกองก็จะลงตามด้วย
ซึ่งถ้าใครเข้าไปซื้อช่วงนั้น ก็จะได้ต้นทุนที่ต่ำลง จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่คนนิยมจะรอซื้อช่วงแบบนี้ครับ


ขยายความอีกนิดจากที่ถามว่า

“การที่หุ้นดิ่งลงไม่เกิน 100 จุดนั้น จะมีผลต่อ NAV ของกองทุน และราคาต้นทุนที่เราซื้อได้หรือไม่ครับ”

หากทำความเข้าใจจากเหตุผลที่ผมอธิบายข้างบน ก็จะสามารถตอบได้ว่า “มีผล” ครับ

จะมีข้อยกเว้น เป็นเคสพิเศษจริงๆ เท่านั้นที่

“ดัชนีหุ้นตก แต่ NAV ของกองทุนไม่ตก”

ซึ่งจะเกิดเพราะหุ้นโดยรวมที่กองทุนนั้นๆ ถือจริง
อาจเป็นหุ้นที่เคลื่อนไหวแตกต่าง หรือสวนทางกับดัชนี

แต่บอกได้เลยครับว่า ถ้าหุ้นตกหนักจริงๆ NAV กองทุนหุ้นก็ตกด้วยกันหมด โอกาสจะรอดยากครับ

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here